top of page
ค้นหา

ใครคือนักสอยคิวมือ 1 ของโลกหากคิดคะแนนสะสมแบบดั้งเดิม

รูปภาพนักเขียน: Dinfor WorkDinfor Work

ก่อนที่การคิดคะแนนสะสมอันดับโลกของศึกสนุกเกอร์อาชีพโลก จะยึดจากจำนวนยอดเงินรางวัลเป็นหลัก เหมือนดั่งเช่นในปัจจุบันที่แฟนสนุกเกอร์คุ้นเคยกัน



    เคยรู้หรือไม่ ว่าการคิดคะแนนสะสมอันดับโลก ของกีฬาUFA23สอยคิวนั้น เริ่มต้นใช้ตั้งแต่เมื่อใด และมีวิธีการคิดคะแนนแบบไหน

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา การคิดคะแนนสะสมอันดับโลก ได้มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด เพื่อให้เข้ากับสมัยนั้นๆ ซึ่งยังไม่รู้ว่า ในอนาคตภายภาคหน้า วิธีการคิดคะแนนสะสมบนเวทีศึกสอยคิวโลก จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่


    ในช่วงที่ศึกสนุกเกอร์ถูกพักเบรกยาว ณ ขณะนี้ เพื่อหลีกทางให้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ทางสนุกเกอร์เอชคิว สื่อกีฬาสนุกเกอร์ชื่อดัง ได้นำเอาระบบการคิดคะแนนสะสมอันดับโลกแบบดั้งเดิม ที่ใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1976 หรือเมื่อ 44 ปีที่แล้ว มาใช้คิดคะแนนสะสมให้กับนักสนุกเกอร์ ที่อยู่ในทัวร์อาชีพยุคปัจจุบัน


    ก่อนที่จะไปดูกันว่า นักสอยคิวในทัวร์อาชีพฤดูกาลปัจจุบัน จะมีอันดับโลกเป็นอย่างไรกันบ้าง ในการคิดคะแนนสะสมแบบเก่า ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การคิดคะแนนสะสมแบบดั้งเดิมนั้นเป็นยังไง และมีที่มาที่ไปอย่างไร

    ในสมัยยุคแรกเริ่ม สนุกเกอร์ยังไม่ใช่กีฬาอาชีพเหมือนดั่งในปัจจุบัน จะแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัลเท่านั้น โดยไม่มีการเก็บคะแนนสะสม เพื่อจัดอันดับโลกแต่อย่างใด

    จนกระทั่งก่อนถึงศึกชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1976 สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1968 ได้มีความคิดที่จะจัดมือวางในการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีดังกล่าว เพื่อไม่ต้องการให้มือดีๆมาเจอกันเองในรอบแรกๆ 

    ดังนั้น จึงริ่เริ่มคิดคะแนนสะสมอันดับโลกขึ้นมา โดยนับเฉพาะผลงานการแข่งขันชิงแชมป์โลก 3 ครั้งก่อนหน้านั้น อันประกอบด้วย ศึกชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1973-1975 ซึ่งระบบการคิดคะแนนนั้นมีดังนี้

    ผู้ที่คว้าแชมป์โลกจะได้ 5 คะแนน, รองแชมป์โลก 4 คะแนน, ตกรอบรองชนะเลิศได้ 3 คะแนน, ตกรอบก่อนรองชนะเลิศได้ 2 คะแนน และตกรอบ 16 คนสุดท้ายได้ 1 คะแนน

    ปรากฏว่า เรย์ เรียดอน ตำนานสนุกเกอร์ชาวเวลส์ ที่เป็นนักสอยคิวที่เก่งที่สุดในโลก ณ เวลานั้น จากการคว้าแชมป์โลกทั้ง 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1973-1975 ได้ 15 คะแนนเต็ม จึงทำให้เขา ถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักสนุกเกอร์คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ขึ้นไปครองอันดับ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการ 

    พร้อมกับถูกวางให้เป็นมือ 1 ของรายการในศึกชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1976 ก่อนที่นักสอยคิว ผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับท่านเคาท์แดรกคูล่ารายนี้ จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ติดต่อกันของเจ้าตัวอีกด้วย หลังจากรอบชิงชนะเลิศเอาชนะ เอาชนะ "เดอะเฮอร์ริเคน" อเล็กซ์ ฮิกกินส์ ตำนานสอยคิวชาวไอร์แลนด์เหนือไปได้ 27-16 เฟรม

    สรุปง่ายๆก็คือ การคิดคะแนนสะสมอันดับโลกในยุคแรกเริ่ม จะคิดเฉพาะศึกชิงแชมป์โลกเพียงรายการเดียวเท่านั้น ก่อนที่ในปี 1982 ศึกเจมสันอินเตอร์เนชั่นแนล จะกลายเป็นรายการอื่นที่นอกเหนือจากศึกชิงแชมป์โลก ที่มีการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก

    ด้านสนุกเกอร์เอชคิว ได้นำระบบการคิดคะแนนสะสมแบบดั้งเดิม ที่นับคะแนนเฉพาะศึกชิงแชมป์โลก มาใช้กับนักสนุกเกอร์ในทัวร์อาชีพยุคปัจจุบัน โดยจะนับเฉพาะผลงานในศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 3 ครั้งหลังสุด ระหว่างปี 2017-2019 เหมือนกับการนับคะแนนสะสมอันดับโลกครั้งแรกเมื่อปี 1976


ปรากฏว่า นักสอยคิวอันดับโลก 1 ของโลกภายใต้การคิดคะแนนแบบดั้งเดิม จะเป็น จอห์น ฮิกกินส์ นักสอยคิวสกอตต์ ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ของโลก แม้เขาจะไม่ได้แชมป์โลกในช่วง 3 ปีหลังสุดก็ตาม (2017-2019) แต่จากการที่นักสอยคิวเลือดวิสกี้ ได้รองแชมป์โลกถึง 3 สมัย จึงมีคะแนนมากกว่าคนอื่น ด้วยผลงาน 12 คะแนน 

    ตามมาด้วยอันดับ 2 ร่วมที่มีถึง 3 คน ได้แก่ จัดด์ ทรัมป์ (มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ) แชมป์โลกคนล่าสุด, ไคเรน วิลสั (มือ 8 ของโลกจากอังกฤษ) และ แบร์รี่ ฮอว์กินส์ (มือ 15 ของโลกจากอังกฤษ) หลังจากมี 7 คะแนนเท่ากัน

    จากนั้นอันดับ 5 ร่วมมี 3 คนเช่นกัน จากการมี 6 คะแนนเท่ากัน ประกอบด้วย มาร์ค เจ วิลเลียมส์ (มือ 3 ของโลกจากเวลส์), ติง จุ้น ฮุย (มือ 10 ของโลกจากจีน) และ มาร์ค เซลบี้ (มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ

    ด้าน "เดอะร็อคเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน (มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ) จะรั้งอันดับ 10 ร่วมกับ แกรี่ วิลสัน (มือ 12 ของโลกจากอังกฤษ), เดวิด กิลเบิร์ต (มือ 11 ของโลกจากอังกฤษ), นีล โรเบิร์ตสัน (มือ 2 ของโลกจากออสเตรเลีย), มาร์ค อัลเลน (มือ 5 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ) หลังจากมี 3 คะแนนเท่ากัน

    ขณะที่ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ (มือ 12 ของโลกจากอังกฤษ) กับ แหยน ปิง เถา (มือ 16 ของโลกจากจีน) 2 นักสอยคิวมือท็อป 16 ของโลกในปัจจุบัน จะไม่มีอันดับติดท็อป 16 ของโลก หากคิดคะแนนสะสมอันดับโลกแบบดั้งเดิม


ประวัติศาสตร์คิวโลกต้องจารึก จัดด์ ทรัมป์ คว้าแชมป์ 6 รายการในฤดูกาลเดียว



 โชว์ฟอร์มได้สมราคามือ 1 ของโลกอย่างแท้จริง สำหรับ “เพชฌฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ นักสอยคิววัย 30 ชาวอังกฤษ หลังจากผงาดคว้าแชมป์ศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 ไปครองได้ตามคาด ด้วยการเฉือนชนะ ไคเรน วิลสัน มือ 8 ของโลกจากชาติเดียวกันไปอย่างหืดจับ 4-3 เฟรม ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา 


    แม้ศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น จะไม่ใช่รายการใหญ่ ที่มีเงินรางวัลชิงชัยมากมายเหมือนกับรายการอื่น ทว่าการคว้าแชมป์หนนี้ของแชมป์โลกเมื่อปี 2019 ได้ทำให้เขาสร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ให้วงการสนุกเกอร์โลกต้องจารึกไว้ 

    นั่นก็คือ การคว้าแชมป์รายการนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 17 ของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 6 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้อีกด้วย ต่อจากการคว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนลแชมเปี้ยนชิพ 2019, เวิลด์โอเพ่น 2019, นอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2019, เยอรมันมาสเตอร์ส 2020 และ เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2020


    พร้อมกับทำให้นักสอยคิวจากเมืองบริสตอล กลายเป็นนักสอยคิวที่คว้าแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งได้มากที่สุดในฤดูกาลเดียวทันที ลบสถิติเดิมที่ สตีเฟ่น เฮนดรี้(สกอตแลนด์), ติง จุ้น ฮุย(จีน), มาร์ค เซลบี้(อังกฤษ) และ รอนนี่ โอซัลลิแวน(อังกฤษ) เคยทำได้คนละ 5 รายการได้อย่างยอดเยี่ยม


        (Sub Head)-ทรัมป์ คว้าเงินรางวัลรวมกันจากแชมป์ยิบรอลตาร์ถึง 8 ล้านบาท

    นอกจากเงินรางวัลสำหรับแชมป์คาบาร่า 50,000 ปอนด์(1,950,000 บาท) และเงินรางวัลเบรกสูงสุด 144 แต้ม ที่ทำได้ในรอบชิงชนะเลิศอีก 5,000 ปอนด์(195,000 บาท)แล้ว จัดด์ ทรัมป์ ยังได้เงินโบนัสก้อนโต 150,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5,855,000 บาท จากเบทวิคเตอร์(BetVictor) บริษัทพนันชื่อดังจากยิบรอลตาร์อีกด้วย 

    ตามเงื่อนไขของเบทวิคเตอร์ ที่จะให้เงินโบนัสดังกล่าวแก่นักสอยคิวที่ทำผลงานดีที่สุดใน 4 รายการประเภทยูโรเปี้ยนซีรี่ส์ ได้แก่ ยูโรเปี้ยนมาสเตอร์ 2020, เยอรมันมาสเตอร์ส 2020, ชู้ตเอาท์ 2020 และ ยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 ซึ่ง ทรัมป์ สามารถคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนซีรี่ส์มาครองได้ 2 รายการ ได้แก่ เยอรมันมาสเตอร์ส 2020 และ ยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020

    เท่ากับว่า การคว้าแชมป์บนผืนแผ่นดินยิลรอลตาร์ในครั้งนี้ ได้ทำให้นักสอยคิวมือ 1 ของโลก คว้าเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 205,000 ปอนด์ หรือประมาณ 8,000,000 บาทเลยทีเดียว

    อันที่จริง นีล โรเบิร์ตสัน นักสอยคิวมือ 2 ของโลกจากออสเตรเลีย ที่ตัดสินใจถอนตัวก่อนศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 จะเริ่มไม่กี่วัน เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสคว้าเงินโบนัส 150,000 ปอนด์จากเบทวิคเตอร์ไปครองมากที่สุด หากแชมป์ยิลรอลตาร์โอเพ่น 2020 ตกเป็นของใครก็ได้ที่ไม่ใช่ จัดด์ ทรัมป์

    แต่พอ ทรัมป์ สามารถคว้าแชมป์ที่ยิบรอลตาร์มาครอง ได้ทำให้โบนัส 150,000 ปอนด์ ได้หลุดจากมือของนักสอยคิวชาวออสซี่ไปอย่างน่าเจ็บใจ

    การคว้าแชมป์ยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 ยังทำให้ จัดด์ ทรัมป์ คู่ควรกับตำแหน่งนักสอยคิวที่ดีที่สุดของโลก ในเวลาปัจจุบันอย่างแท้จริง เพราะตอนนี้ คะแนนสะสมของเขา ทะยานขึ้นไปถึง 1,601,000 คะแนนแล้ว รั้งอันดับ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่น ทิ้งห่างอันดับ 2 ของโลกอย่าง นีล โรเบิร์ตสัน แบบไม่เห็นฝุ่นถึง 641.000 คะแนนเลยทีเดียว



        (Sub Head)-ต้องการอีก 3 เซ็นจูรี่เบรกก็จะทำเซ็นจูรี่ออฟเซ็นจูรี่

    นอกจากความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ และการสร้างสถิติมหัศจรรย์ขึ้นมาประดับวงการคิวโลกแล้ว จัดด์ ทรัมป์ ยังทำเซ็นจูรี่เบรกได้มากที่สุด ในศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 หลังจากเขากดไปทั้งสิ้น 9 เซ็นจูรี่เบรก ซึ่ง 1 ในนั้นคือเบรกสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ 144 แต้ม 

    จึงทำให้ฤดูกาลนี้(2019-2020) นักสอยคิวถนัดซ้ายจากเมืองบริสตอล กดไปแล้ว 97 เซ็นจูรี่เบรก ต้องการอีกเพียง 3 เซ็นจูรี่เบรกเท่านั้น ก็จะสามารถทำเซ็นจูรี่ออฟเซ็นจูรี่ หรือทำเซ็นจูรี่เบรกได้ 100 ครั้งขึ้นไป ภายในฤดูกาลเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแค่ นีล โรเบิร์ตสัน เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เคยทำได้ในฤดูกาล 2013-2014 โดยในฤดูกาลนั้น นักสอยคิวแดนจิงโจ้ทำได้ 103 เซ็นจูรี่เบรก

    ในฤดูกาลนี้ ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 รายการ นั่นก็คือศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 และชิงแชมป์โลก 2020 เชื่อว่า จัดด์ ทรัมป์ ที่ฟอร์มกำลังมาแรงแบบไร้เทียมทาน จะสามารถทำเซ็นจูรี่ออฟเซ็นจูรี่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีโอกาสสูง ที่จะทำลายสถิติเดิม 103 เซ็นจูรี่เบรกของ นีล โรเบิร์ตสัน อีกด้วย



       (Sub Head)-บรรยากาศฉลองแชมป์กร่อยเพราะไร้คนดู


    วีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของ จัดด์ ทรัมป์ ที่ทำได้ในระหว่างการแข่งขันยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 จะดีและสมบูรณ์แบบยิ่งกว่านี้ หากมีแฟนสนุกเกอร์เข้ามาชมในสนามเหมือนกับรายการอื่นๆ

    แต่จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่กำลังสร้างความโกลาหลในหลายๆประเทศในทวีปยุโรป และยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้ จึงทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขันยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 ตัดสินใจไม่ให้แฟนสนุกเกอร์ เข้ามาชมที่ฮอลแข่งขัน ณ ยูโรป้าพอยท์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่าย

จึงทำให้ จัดด์ ทรัมป์ ฉลองความยิ่งใหญ่ กับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการสอยคิวโลก โดยไร้เสียงปรบมือและโห่ร้องด้วยความยินดีจากแฟนสนุกเกอร์ จึงทำให้บรรยากาศการฉลองชัยชนะ ดูจืดชืดไปทันที ทั้งๆที่มันควรจะยิ่งใหญ่และอลังการมากกว่านี้ 



        (Sub Head)-ไคเรน วิลสัน ชวดตั๋วไปทัวร์แชมเปี้ยนชิพ


    ด้าน ไคเรน วิลสัน นอกจากจะพลาดการคว้าแชมป์ยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 แล้ว ยังทำให้เขาชวดคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันรายการใหญ่อย่างทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่เมืองลานดุดโน ประเทศเวลส์ ระหว่างวันที่ 27-22 มีนาคมนี้อีกด้วย  โดยรายการนี้ จะคัดเอาเพียงนักสอยคิวที่มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้(one year ranking) เพียงอันดับ 1-8 เท่านั้นไปแข่งขันกัน

    ก่อนที่จะดวลคาบาร่าคิวยิบรอลตารโอเพ่น 2020 ไคเรน อยู่ในอันดับ 12 ของ one year ranking และต้องคว้าแชมป์ที่ยิบรอลตาร์เท่านั้นถึงจะคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 และเกือบทำได้ด้วย หลังจากเขาขึ้นแท่นนำ จัดด์ ทรัมป์ ในรอบชิงชนะเลิศ 3-2 เฟรม ทว่ากลับปิดทัวร์นาเมนต์ไม่ลง ก่อนจะโดน ทรัมป์ พลิกกลับมาชนะ 4-3 เฟรม พลาดสิทธิ์ไปแข่งขันทัวร์แชมเปี้ยนชิพที่เวลส์อย่างน่าเจ็บใจ  P-อย่างไรก็ตาม การคว้ารองแชมป์ที่ยิบรอลตาร์ ทำให้นักสอยคิววัย 28 รายนี้ ได้คะแนนสะสมเพิ่ม 16,000 คะแนน ยังรั้งอันดับ 8 ของโลกเหมือนเดิม  (Sub Head)-คลอดสายการแข่งขันทัวร์แชมเปี้ยนชิพ

    ภายหลังจากจบศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น 2020 นอกจากจะทำให้รู้ว่า มีนักสอยคิวคนใดบ้าง ที่มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้(one year ranking) อยู่ในอันดับ 1-8 จนคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020

    ยังทำให้แฟนสนุกเกอร์ได้ทราบถึงสายการแข่งขันในรายการทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 อีกด้วย เนื่องจากรายการนี้ จะวางสายประกบคู่โดยใช้คะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนี้(one year ranking) เป็นหลัก โดยนักสอยคิวที่อันดับ one year ranking ในอันดับบนสุด จะประเดิมรอบแรก หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการพบกับคนที่มีอันดับ one year ranking อยู่ในอันดับล่างสุด ไล่ตั้งแต่มือ 1 จะพบมือ 8, มือ 2 จะพบมือ 7, มือ 3 จะพบมือ 6 และมือ 4 จะพบมือ 5

    ซึ่งผลการประคู่ ของศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 ระหว่างวันที่ 17-22 มีนาคม ที่เวนูซิมรู เมืองลานดุดโน ประเทศเวลส์ มีดังนี้

    สายบน จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ(มือ 1 one year ranking) จะพบกับ จอห์น ฮิกกินส์ มือ 5 ของโลกจากสกอตแลนด์(มือ 8 one year ranking) ซึ่งผู้ชนะจะเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับผู้ชนะคู่ระหว่าง นีล โรเบิร์ตสัน มือ 2 ของโลกจากออสเตรเลีย(มือ 4 one year ranking) กับ ติง จุ้น ฮุย มือ 10 ของโลกจากจีน(มือ 5 one year ranking)

    ด้านสายล่าง มาร์ค เซลบี้ มือ 4 ของโลกจากอังกฤษ(มือ 3 one year ranking) จะพบกับ แหยน ปิง เถา มือ 16 ของโลกจากจีน(มือ 6 one year ranking) โดยผู้ชนะคู่นี้ จะเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับผู้ชนะคู่ระหว่าง ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 9 ของโลกจากอังกฤษ(มือ 2 one year ranking) ที่จะพบกับ มาร์ค อัลเลน มือ 6 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ(มือ 7 one year ranking)  

ดู 260 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page