ระดับทวีป! นิตยสารดังยก "มินามิโนะ" ติดโผบุคคลสำคัญของเอเชีย

ทาคูมิ มินามิโนะ ปีกทีมชาติญี่ปุ่นและสโมสรลิเวอร์พูล วัย 25 ปี ได้รับเลือกจาก ฟอร์บส์ นิตยสารทางการเงินชื่อดังของประเทศสหรัฐฯ ให้เป็นหนึ่งในบุคคลอายุน้อยกว่า 30 ปีที่มีความสำคัญ และประสบความสำเร็จของทวีปเอเชีย ในหมวดวงการบันเทิงและกีฬาประจำปี 2020

โดยนิตยสารชื่อดังจากอเมริการะบุว่า "ทาคูมิ มินามิโนะ เป็นกองกลางตัวรุกของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และเป็นหนึ่งนักเตะชั้นยอดของญี่ปุ่น เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรในพรีเมียร์ลีกช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวปี 2020 หลังอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก แชมป์ลีกออสเตรีย เป็นเวลา 5 ปี"

"มินามิโนะ เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติญี่ปุ่นที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019 โดยที่เขาเป็นคนทำประตูลูกเดียวที่ทัพซามูไรบลูทำได้ในเกมแพ้ กาตาร์ 1-3 ในนัดชิงชนะเลิศ มินามิโนะเริ่มต้นเส้นทางอาชีพเมื่อปี 2012 กับ เซเรโซ โอซากา สโมสรของญี่ปุ่น ในการเล่นเต็มฤดูกาลแรกเมื่อปี 2013 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของ เจ-ลีก"

ทั้งนี้ มินามิโนะ เป็นนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่ติดโผ 30 คน ร่วมกับนักกีฬาเอเชียคนอื่นๆ อย่าง อาน เซ-ยอง นักแบดมินตันสาวดาวรุ่งเกาหลีใต้วัย 17 ปี, มาร์คัส เฟร์นาลดี กีเดียน กับ เควิน ซานจายา ซูคามูลโญ ยอดขนไก่ชายคู่อินโดนีเซีย รวมทั้งนักร้อง และนักแสดงอีกหลายราย บาคาร่า

ตัวเลือกแรก! สื่อเผยชื่อแข้งที่ "คล็อปป์" วาดฝันคว้าสร้างแนวรุกลิเวอร์พูล

เดวิด ลินช์ ผู้สื่อข่าวจาก อีฟนิ่งสแตนดาร์ด ออกมาเปิดเผยว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ​ลิเวอร์พูลสโมสรดังในศึก​พรีเมียร์ลีกนั้นเคยวางตัว ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการเสริมทัพก่อนหน้าที่จะได้ตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาร่วมทีม

ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันหมายมั่นปั้นมืออย่างมากที่จะเซ็นสัญญากับ มิดฟิลด์ทีมอินทรีเหล็ก เพื่อนร่วมชาติเมื่อตอนที่ดาวเตะรายนี้ค้าแข้งอยู่กับ โวล์ฟบวร์ก ในศึกบุนเดสลีกาเมื่อ 3 ปีก่อน UFA23

ลินช์ ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อช่วงปี 2017 คล็อปป์ ต้องการตัว แดร็กซ์เลอร์ มาเสริมแนวรุก แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะย้ายมาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ และหันไปเซ็นสัญญากับ ปารีส แซง-แชร์กแมง ทีมยักษ์ใหญ่จาก ลีกเอิง แทนด้วยค่าตัว 36 ล้านยูโรเมื่อเดือนมกราคมปี 2017

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาผู้จัดการทีม หงส์แดง ก็ได้หันไปให้ความสนใจ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวริมเส้นจาก โรมา และยอมทุ่มเงินราว 42 ล้านยูโรหรือประมาณ 36 ล้านปอนด์มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์แทน และเจ้าตัวก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแดนหน้าพร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก รวมทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ได้ตั้งแต่ซีซันแรก