top of page
ค้นหา

ซ้อมวันที่สอง! "นิชิโนะ" ยิ้มออก "แข้งช้างศึก" ไร้แข้งเจ็บลงสนามซ้อมครบทีม

รูปภาพนักเขียน: Dinfor WorkDinfor Work

ทีมชาติไทย ลงฝึกซ้อมเป็นวันที่สอง ที่สนาม วิลด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ เพื่อเตรียมลงอุ่นเครื่องพบกับสโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด จากเอ็ม-150 แชมเปี้ยนส์ชิพ (ไทยลีก 2) ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้


โดยการฝึกซ้อม อากิระ นิชิโนะ ได้เพิ่มรายละเอียดการฝึกซ้อมให้เข้มข้นกว่าเดิมด้วยการซ้อมแท็คติคการเล่นมากขึ้น โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ ซึ่งใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 30 นาที  


ด้าน อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพ ASIA369 “ช้างศึก” กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่นักเตะทุกคนลงฝึกซ้อมได้อย่างพร้อมเพรียงไม่มีนักเตะบาดเจ็บเลย แต่นักเตะใหม่หลายคนยังมีอาการเกร็งอยู่ ทำให้ต้องค่อยๆ ปรับตัวไป”


“ผมไม่ได้กังวลกับสภาพอากาศสักเท่าไหร่ เพราะว่าโดยทั่วไปแล้วบรรยากาศมันไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก หากไม่หนักเหมือนญี่ปุ่นที่มีหิมะตกก็คงซ้อมได้อย่างไร้ปัญหา”


“ก่อนมาซ้อมได้มีการประชุมกับนักเตะแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดและแนวทางการเล่น วันนี้ก็จะมีการเพิ่มเติมเรื่องการยืนตำแหน่งให้มีความชัดเจนขึ้นกว่าการฝึกซ้อมเมื่อวาน ตอนนี้เราได้มาฝึกซ้อมท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ผมพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากการฝึกซ้อมครั้งนี้ให้ได้มากที่สุดครับ”


สำหรับโปรแกรมจะลงอุ่นเครื่องระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับสโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด ในวันที่ 10 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. ที่สนามโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม ถ่ายทอดสดออนไลน์ทาง Facebook และ Youtube ไทยรัฐทีวี


ทั้งนี้การแข่งขันจะเปิดให้แฟนบอลเข้าชม ตามข้อกำหนดของ บริษัท ไทยลีก จำกัด (25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม ราว 800 คน แต่ไม่เกิน 4,000 คน ) ตามกฏระเบียบของประกาศจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)


โดยแฟนบอลที่สนใจชมการแข่งขัน สามารถซื้อบัตรได้บริเวณหน้าสนาม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป (จนกว่าบัตรจะหมด) และเปิดให้เข้าสนามพร้อมกันทุกโซน ในเวลา 16.00 น. ราคาบัตรมีตั้งแต่ 100, 150 และ 200 บาท


การท่าเรือ ยื่นขอใช้ "ลีโอ สเตเดี้ยม" เป็นรังเหย้าเลกแรก

มาดามแป้งนวลพรรณ ลํ่าซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. เผยความคืบหน้าการยื่นเรื่องขอสมาคมฯ ใช้สนามกลางในการแข่งขัน เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย โดยเลือกขอใช้ “สนามลีโอ สเตเดี้ยม” เป็นรังเหย้าจนจบเลกแรก


43 กิโลเมตร คือระยะทางจากสนามแพท สเตเดี้ยม ไปยัง ลีโอ สเตเดี้ยม ประกอบกับการจราจรที่ติดขัด ทำให้แฟนบอลบางท่านตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมไม่เลือกสนามที่ระยะทางไม่ไกลและเดินทางสะดวกกว่า เป็นรังเหย้าชั่วคราว...


ทั้งนี้ ข้อมูลจากฝ่ายจัดการแข่งขัน พบว่า สนามศุภชลาศัย, สนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง และ สนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สนามจุ๊บ) ไฟส่องสว่างในสนามไม่ผ่านมาตรฐานที่ 1200 ลักซ์ ส่วนสนามเทพหัสดินนั้น พื้นสนามไม่ผ่านมาตรฐาน ขณะที่ไฟส่องสว่างก็ยังไม่ผ่านการตรวจสอบเช่นกัน เรียกได้ว่า ปิดประตูตั้งแต่ต้น


มาถึง “ลีโอ สเตเดี้ยม” อันดับแรก ในห้วงเวลาที่ต้องคิดเร็ว แอคชั่นเร็ว จะมีที่ไหนเหมาะสมอีก? ด้วยความสัมพันธ์อันดีของท่านประธานทั้งสอง ของทัพ “สิงห์เจ้าท่า” และ “เดอะ แรบบิท” ประกอบกับมาตรฐานสนามลีโอ สเตเดี้ยม ที่เคยใช้เป็นสังเวียนแข่งขันของทีมชาติไทยมาแล้ว ฉะนั้นมาตรฐานสนามและความปลอดภัยผ่านเกณฑ์อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งพื้นสนามที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ทั้งหมด, ไฟส่องสว่างที่ได้มาตรฐาน ที่จอดรถสำหรับทีมเหย้า-เยือนที่เพียงพอ ,ห้องแต่งตัวนักฟุตบอลและแถลงข่าวที่เป็นไปตามมาตรฐาน ฯลฯ


เชื่อว่ามันคงลำบากกว่าเดิมแน่นอนสำหรับแฟนบอล แต่เราก็ยังเชื่อในพลังและแรงศรัทธาของทุกคน ที่คงไม่ทิ้งเราไปไหนแน่นอน.... จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา “สิงห์เจ้าท่า” ไม่ควร “เสี่ยง” กับปัจจัยใดอีก และพวกเราพร้อมเดินหน้าต่อและจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อแฟนบอลสวีทโบนันซ่า เล่นง่ายและเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ

ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page